chaninat zone ภาคภาษาไทยนะคะ

เวบนี้มีลิขสิทธิ์นะจ๊ะ
subglobal1 link | subglobal1 link | subglobal1 link | subglobal1 link | subglobal1 link | subglobal1 link | subglobal1 link
subglobal2 link | subglobal2 link | subglobal2 link | subglobal2 link | subglobal2 link | subglobal2 link | subglobal2 link
subglobal3 link | subglobal3 link | subglobal3 link | subglobal3 link | subglobal3 link | subglobal3 link | subglobal3 link
subglobal4 link | subglobal4 link | subglobal4 link | subglobal4 link | subglobal4 link | subglobal4 link | subglobal4 link
subglobal5 link | subglobal5 link | subglobal5 link | subglobal5 link | subglobal5 link | subglobal5 link | subglobal5 link
subglobal6 link | subglobal6 link | subglobal6 link | subglobal6 link | subglobal6 link | subglobal6 link | subglobal6 link
subglobal7 link | subglobal7 link | subglobal7 link | subglobal7 link | subglobal7 link | subglobal7 link | subglobal7 link
subglobal8 link | subglobal8 link | subglobal8 link | subglobal8 link | subglobal8 link | subglobal8 link | subglobal8 link
สารานุกรมศัพท์ครอบครัว / แบบทดสอบความรัก / เหงาๆเหง่าวๆ / เปรยๆ / อ่านก่อนห่า / สุภาษิต คำคม

Chaninat Zone

อ่านก่อนหย่า

นอกจาก การสีซอให้ควายฟังแล้ว คุณเคย ต่อจิ๊กซอมั๊ย ตอนเริ่มต่อใหม่ๆ เห็นส่วนเว้าส่วนยื่น มันน่าจะ ตกร่องปล่องชิ้นกันได้ วางปุ๊บติดปั๊บ เข้าแง่เข้ามุมกันดิบดี เราก็จะคิดว่าใช่เลย อันนี้ใช่เลย พอต่อไปอีกระยะหนึ่ง สีสันลีลา มันปรากฏชัดขึ้น แค่ลงรอยกันได้ไม่พอซะแล้ว มันไม่เป็นรูปเป็นร่าง ขาดๆเกินๆ ยังไงพิกล ชีวิตคู่ก็ประมาณนั้น อย่าเพิ่งใจร้อน ถอดออก แล้วหาใหม่ เพราะ ... จิ๊กซอในชีวิตจริง มันไม่ได้ถูกจัด ไว้ในกล่องเดียวกัน จะได้ชัวร์ว่ามีตัวที่จะปะแทนที่กันได้ บางทีหามาตลอดชีวิต ....อาจไม่ยักกะเจอซะทีก็ได้

คำว่า " หย่า " สำหรับบางคน ดูเหมือนไม่มีค่าอะไรเลย ใช้ พร่ำเพรื่อจนเฟ้อ โกรธนิด ผิดใจหน่อย เบื่ออาหาร หรือแม้แต่ กินยาแล้วลืมเขย่าขวด ก็จะหย่ากันซะเรื่อย เดี๋ยวก็จะหย่า จะหย่า จนคนฟังชักสับสนว่า จริงๆแล้วอยากหย่ารึป่าววะ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจเสียเนิ่นๆ

เวลาโมโฮ้ .. โมโห สุดเหวี่ยงจนไม่กลัวร้อนละก็ เลือกวิธีกินทุเรียนให้จุกไปเลยยังดีกว่าเอ่ยคำว่าหย่า คำนี้ไม่ใช่ลูกอมซื้อหามา ง่ายๆนะจะบอกให้ ตอนพูดไม่คิด แต่คนฟังมัน Hurt แล้วในที่สุดก็ไอ้คนที่พูดนั่น ก็อดจะ Hurt ด้วยกันไม่ได้ เขาเรียกว่า ขว้างงูไม่พ้นคอ แต่ถึงพ้นคอก็ไม่น่าขว้าง สงสารมัน จุดธูปขอหวยมันยังมีสาระกว่า

ถ้าสามีคุณเป็นพวกปากไว หันซ้ายก็หย่า หันขวาก็หย่า คุณก็ใจเย็นไว้ หันหน้ามาบอกเลย อยากหย่าไปหาเหตุหย่ามาให้ได้ก่อนซิ ! ถ้าเขายังงงอยู่ บอกไปเลย << ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 มาตรา 1516 ประกอบด้วยเหตุต่างๆ รวม 10 อนุมาตรา >> ดูซิจะมีปัญญาหาได้มั๊ย ถ้าท้าหย่าอีก ก็คิดซะว่า นี่ละคือ คาถากันหย่า เจอลูกนี้บ่อยๆ ก็เซ็งไปเอง แต่เรา อย่าเผลอ ไปท้าเขาเองละ

ผู้เขียนมีเพื่อนหลายคนที่หย่าโดยประมาท หย่าเพราะชั่ววูบ อารมณ์โกรธโดยแท้ พอเผลอตัว ท้าไปแล้ว บังเอิญ สามีสนองรับ (ก็ประชด เหมือนกัน) อารมณ์เดียวกัน อย่างนี้จะมาอ้างว่าหย่าเพราะบรรดาลโทสะคงฟังไม่ขึ้น

บางคนหย่าเพราะความรู้สึกน้อยใจ โดนสามีดุด่า (บางทีแค่บ่นก็น้อยใจแล้ว) หรือเปรยๆว่าไม่สวยแล้วยังโง่อีก หรือไม่ก็ทั้งอ้วนทั้งแก่ อะไรทำนองนี้ บ่อยเข้า ก็น้อยใจ ตะหงิดๆ มากขึ้นทุกที วันไหนทะเลาะกันเป็นต้องขอร้อง ให้สามีหย่า เพื่อไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า กลุ่มนี้ต้องเรียกว่า ดูละครน้ำเน่า มากเกินไป เล่นบท ...นางเอ๊ .. ก ...นางเอก คิดว่า นี่ฉันเสียสละ ให้เธอไปมี ชีวิตใหม่แล้วนะ ฉันเปิดทางให้แล้ว ฉันใจกว้าง ขนาดไหน ยังมาว่าฉันอีกว่าโง่ คำก็ไง่ สองคำก็ไง่ ไม่เอาไหน โถ๋ ! สามีก็อย่างนี้ละ พูดไปเรื่อย แต่เชื่อซิ เขาหาใหม่ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าคุณ เพราะคนตาถั่ว ขนาดคุณ เอ๊ย ! ซื่อขนาดคุณ รักเขาขนาดคุณ ..มันหายาก ถ้าอยากจะใจกว้าง และเสียสละจริงๆแล้ว ต้องทนอยู่กับเขาต่อไป ทนทุกข์ทรมาณ ทดสอบซิว่า นรกมีจริงมั๊ย ? นั่นละเรียกว่าเสียสละ ถ้าคุณคิดว่า คุณทำได้โดยไม่ลำบากมากนัก ก็แสดงว่าคุณรักเขามากจริงๆแฮะ ! แต่ถ้าต้องอยู่อย่างทน ทนมาก ทนมหาประลัย ทนแหลก แบบนี้เรียกว่า ต่อมแห่งความคิด ด้วยเหตุและผล ของคุณคงหยุดทำงาน หรือชำรุดไปแล้ว ไม่เป็นไร ซ่อมได้ แต่กรณีที่คุณคิดว่าทนจังเลย ทั้งๆที่ ความจริง คุณก็ยังมีความสุข อยู่กับเขาบางเวลา ไม่ต้องถึงขนาดรักโรแมนติกก็ได้ ประมาณว่า ไปกินข้าวแกง ที่ร้านหน้าปากซอยด้วยกันได้ โดยไม่กัดกันก่อน กลับถึงบ้านก็ยังไม่เรียกว่าเลวร้าย

ทนอยู่กับเขาทำไม คุณคิดว่าคุณรักเขามั๊ยล่ะ ถ้ารักเขา ห่วงเขา ก็ควรอยู่ดูแลเขาซิ ไม่ใช่อยู่แบบเฝ้าจับผิดนะ ถ้าอยู่แบบนั้นไม่ใช่คุณทนอยู่กับเขา แต่เขาต่างหากทนอยู่กับคุณ ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่า จะมีใครรักเขาเท่าที่คุณรัก ก็ทนไปก่อน เหมือนวิญญาณข้างทางโค้ง รอวิญญาณอื่น มาเข้าเวรแทน ถึงจะไปผุดไปเกิดได้ ประมาณนั้น ประเหมาะเคราะห็ดี เจอเหยื่อรายใหม่ ดูเข้าท่าเข้าทาง ถามตัวเองว่า เอารึยัง พร้อมแล้วก็ ส่งไม้ต่อไปเลย

แต่ไม่ควรแสดงอาการดีใจมากจนออกนอกหน้า ขนาดฝากฝังสามีเสร็จสรรพ แล้วยังอดกำชับไม่ได้ว่า " ห้ามเอามาคืนนะ " เมียน้อยหรือเมียใหม่อาจสยอง หรือบางคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าเราพูดประชดแดกดัน ที่สามีเราไปรักเขาเข้า กว่าเขาจะเข้าใจความหมายของเรา ก็ต้องกลายสภาพเป็นเมียหลวงไปอีกคน (ความจริงอยาก เป็นแค่เมียเฉยๆ)

สามีภริยาบางคู่อยู่ด้วยกันมาเกือบร้อยปี (กล่าวเกินความเป็นจริง กรุณา ใช้วิจารณญาณไตร่ตรองด้วย) กว่าจะรู้ว่ารักกัน และในโลกนี้ไม่มี ใครรักฉันเท่าเธอ ก็หย่ากันไปชาตินึงแล้ว จนสามีมีลูกคอกใหม่เป็นโขลง อันนี้เรียกว่าความรู้สึกช้าไปหน่อย

การหย่าก็ไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายเสมอไป อย่างน้อย เราก็มีเวลาคิดทบทวน สิ่งที่ผ่านมา ส่วนจะพัฒนาตนเองได้หรือไม่ ก็ช่างมันเถอะ นอกจากคิดทบทวน เรายังมีความสงบ เพราะเหลือแต่ลูกกวนตัว ไม่มีผัวมากวน .... หัวแม่โป้ง

สำหรับบางคู่หลับหูหลับตาหย่า ไม่ดูตาม้าตาเรือ เธอเสนอมา ฉันก็สนองรับ สุดท้ายเกิดนิติกรรมสัญญา " หย่า " แล้วกลับแทบบ้าไปทั้งคู่ ถ้าสำนึกได้ทันก็หันมาอยู่กันใหม่ แต่ส่วนใหญ่พอเสียใจ จากการหย่ามาหมาดๆ เจอคนดีมาปลอบใจ เลยจดทะเบียนกับคนปลอบใจซะเลย ที่ยุ่งยิ่งขึ้นก็คือ ยังทำใจลืมคนเก่าไม่ได้ก็หวนกลับไป แถมใจอ่อนกันเข้าไปอีก คราวนี้เป็นเรื่องใหญ่อีตรงที่ว่า บังเอิญเกิดลูกหลงสมรสขึ้นมา มาเกิดตอนพ่อแม่หย่ากันแล้ว ต้องเดือดร้อนให้ อดีตสามีต้อง ไปจดทะเบียนรับรองบุตร มิฉะนั้น เด็กจะไม่มีบิดา โดยชอบด้วยกฎหมาย ใครเป็นหลวง เป็นน้อยคงลำบากตัดสิน ประนีประนอมกันได้ก็แค่ดี แต่รับรองได้ … ไม่มีความสุข สักเท่าไหร่หรอก !

ก่อนหย่าถามใจคุณเสียให้ดี ถามสักพันครั้งอาจน้อยไปก็ได้ ส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสถาม ถึงแม้ตัวจะอ้วนแต่ จิตใจไม่หนักแน่นพอ ใจมันคอยคิดแต่จะหย่า จะหนีจากปัญหา แล้วก็หนีไม่พ้น ต้องไปเจอปัญหาใหม่ อยู่ที่ ใครชอบปัญหาไหน มากกว่ากัน วันที่คุณจดทะเบียนหย่า ต้องเป็นวันที่คุณสบายใจ ไม่ใช่เศร้าใจจนหดหู่ ไหล่ตก (ไม่มีหางจะตกเลยใช้ไหล่ตกแทน) แต่ไม่ใช่ เสแสร้งทำพยองว่า ฉันแน่ ..แต่พอกลับถึงบ้านก็จ๋อย ...เหมือนหอยนางรมโดยแกะเปลือก

รู้ได้ไงว่าพร้อม ก็ต้องถามตัวเองซิ ถามคนอื่นจะไปได้เรื่องอะไร

1. หย่าเพื่ออะไร เพื่อหาวิถีคนกล้า บ้าบิ่น หรือความสงบ ถ้าหาแค่ความสงบไม่ต้องหย่าก็พอสงบได้ แค่ยากสักนิด แต่ง่ายกว่าการหย่าแล้วยังโหยหาเขาอยู่ ตอนนี้ร้องไห้ไปก็ ไร้บอย และไร้แมน ส่วนเกย์และประเทืองถึงไม่ไร้ก็ไม่มีประโยชน์

2. ทนไม่ไหวล้วหร๋อ ? รอให้ลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวหรือโตเป็นควายก่อนไม่ได้หร๋อ เด็กจะได้ไม่ต้องคิดมาก หรือกลัวเราเองจะเปลี่ยนใจ รอจนสามีกลับมาตายรังไหวมั๊ย ? หรือจะรอให้หมดน้ำยา ?(อันนี้คงต้องรอนานหน่อยนะ เพราะถึงเขาตอนแล้ว ก็ยัง ไม่หมดน้ำยา หมดแต่ Sperm เท่านั้นจ๊ะ) ทำไมจะทนไม่ได้ ก็รักเขาให้น้อยลงซิ เหลือเพียงครึ่งนึงก็พอแล้ว จะได้ไม่ต้องแคร์มาก เรื่องมาก ฝืนหน่อยแต่ง่ายกว่า

3. อยากหย่าแบบไหนบบยังเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้อง หรือเป็นศัตรู แบบหลังนี่ทำไม่ยาก แค่เราเป็นตัวเรา แบบสุดๆ ไม่ใส่ใจใครเลย รับรองประกันผล 100 % เริ่มสะสมคะแนนได้ ด้วยการฉีกหน้าสามี มันทุกสถานที่ ต่อหน้าลูกน้องและเจ้านาย เวลาทะเลาะกันก็หาอุปกรณ์ทุ่นแรง เช่น สมุดโทรศัพท์ (ไม่รวมแผ่น C.D. ขององค์การโทรศัพท์นะ มันเล็กไป) หรือ จาน ชาม หม้อ ที่บดน้ำพริก (สมัยนี้หาครกลำบาก) แต่ถ้า จะให้มีประสิทธิภาพที่สุด ต้องไม้กวาด สามีจะจำคุณไปจนตาย 10 ชาติก็ไม่ลืม แต่ถ้า อยากจะหย่าแบบแรก เหมือน Happy Ending ถึงจะเสียสามีห่วยๆไปคนนึง แต่คุณจะได้เพื่อนดีๆ มาแทนที่ ทำไมเขาต้องดี ต้องเป็นห่วง ต้องหวังดีกับเรา ก็เพราะ เขาไม่อยาก ให้ลูกของเขา ต้องสูญเสียอะไรมากไปกว่านี้อีกน่ะซิ อย่าเผลอ ไปหลงคิดว่า เขาอาลัยอาวรนะ คนละงาน

ข้อสำคัญ ลูกของคุณเขาก็ต้องการพ่อเท่าๆกับต้องการแม่ ต่อให้คุณเป็น ทอม คุณก็ทดแทนได้ไม่ครบ (เพราะ มัวไปเล่นบทพ่ออยู่ ลูกเลยขาดแม่) ลูกเป็นของคุณ 2 คน ไม่ใช่ของคุณคนเดียหย่าแต่ตัวคุณคนเดียว นะ ไม่ต้องให้ลูกมาหย่าด้วย ว ถึงคุณจะเป็นคนท้อง เป็นคนเลี้ยง แต่คุณก็ต้องอาศัย Sperm จากพ่อเขาละ ไงๆเขาก็มีสิทธิ ในความเป็นพ่อ ผลทางกฎหมายไม่ต้องกล่าวถึง พ่อแม่หลายคู่ บังคับให้ลูกหย่าด้วย พ่อแม่แบบนี้ ใจร้ายยิ่งกว่า เจ้าของโรงงานนรก ที่ใช้แรงงานเด็กซะอีก น่าส่งไปอยู่เกาะร้าง คนเดียวสักชาตินึง !

4. คุณพร้อมแล้ว ลูกคุณพร้อมรึยัง อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง เพราะเขามีสมอง อย่าคิดว่าเด็กรับไม่ได้ เพราะเขาปรับตัวได้ ถ้าคุณรู้จักคิดเตรียมการให้กับเขา เตรียมแบบที่ ไม่ให้เขารู้สึกตัวว่า เขากำลังจะเสียใครไป แต่เตรียมให้เขารู้สึกว่า ไม่มีพ่อหรือไม่มีแม่สักคนก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ด่าพ่อให้ฟัง เช้า กลางวัน เย็น เพราะถ้าคุณทำอย่างนั้น เขาคงอยาก ขาดคุณมากกว่า

ถ้าคุณตัดสินใจหย่า คุณต้องสำนึก ตลอดเวลา ทั้งก่อนและหลังหย่าว่า คุณมีความรับผิดชอบมากขึ้น ถ้าลูกอยู่กับคุณ คุณต้องทดแทนสิ่งที่คุณทำให้เขาขาดไป อย่ามัวไปโทษว่าเป็นความผิดของพ่อ การที่คุณทั้งสอง อยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครคนเดียวเต็มๆ...แต ...เป็นของคุณทั้งสองคน ไม่มีใครผิดและไม่มีใครถูก ตอนนี้สำคัญที่ ทางที่คุณเลือก เมื่อคุณเลือกทางนี้ คุณก็ต้องเดินทางนี้ให้ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดสำหรับลูกด้วย

5. คุณเตรียมความพร้อมสำหรับสังคมหรือยัง คุณอยากเป็นคนน่าสงสารสำหรับคนอื่น หรือเป็นคนที่คนอื่น ยอมรับทั้งๆที่คุณเป็นแม่ม่าย คุณพร้อมจะบอกเพื่อนว่า ฉันหย่าแล้วด้วยรอยยิ้ม หรือปล่อยโฮทันทีที่หลุดคำว่า "หย่า" ออกมา ทำไมต้องอาย ถ้าคิดดีแล้ว ทำไมต้องเสียใจ ถ้าคุณคิดว่านี่คือทางที่เหมาะสมของคุณ เปรียบเทียบดูซิ เราปวดฟันจะเป็นจะตาย ซ่อมได้ ก็จริง แต่ซ่อม ( อุด ) มาก็หลายหน ถอนซะดีมั๊ย ยอมเจ็บนิดนึง ความจริงเจ็บน้อยกว่า การปวดฟันตั้งเยอะ เมื่อถอนฟัน แล้วใส่ฟันปลอม ก็ไม่น่าแปลก ทำไมต้องกังวลกับเรื่องไร้สาระ

6. ทดสอบความพร้อมของคุณก่อน ทดสอบแบบมีระบบ ผ่านขั้นที่ 1 จึงไปลำดับสอง และลำดับต่อๆไป และต้องเข้มงวด ในการวัดผลด้วย

ขั้นแรก แจ้งข้อเรียกร้อง ขอเจรจาต่อรอง เพื่อหาหนทาง สายที่ค่อนข้างกลางที่สุด เพื่อประนีประนอมกัน ไม่ควรเกิดข้อพิพาททางครอบครัว โดยไม่จำเป็น อ่อนบ้าง แข๊งมาก เท่าที่คุณคิดว่าคุณรับได้ อย่ายอม ในสิ่งที่คุณมั่นใจอยู่แล้วว่า ทำไม่ได้เพราะมันจะทำร้ายตัวคุณเอง

ขั้นสอง ทดลองปฏิบัติ คุณตกลงกันได้หรือไม่ได้ ไม่สำคัญ (บางที เขาไม่ยอมเช็นสัญญา สงบศึกเพราะยโสเกินไป แต่กลับตัว กลับใจดีขึ้น) ระยะเวลานี้ แค่เดือนเดียวไม่อาจวัดผลอะไรได้เลย คงต้องรอดูผลสักพักใหญ่ประมาณ 1 พรรษา เห็นว่าน่าจะพอ จินตนาการได้

ขั้นที่สาม ถ้าไม่ผ่านทดลองปฏิบัติ ก็ทดลองอยู่ด้วยกันแบบเพื่อน ข้อนี้คงยาก ถ้ามองในแง่การบ้านที่อาจต้องทำด้วยกัน แต่อย่างไรก็ดี ถ้าคุณทั้งสองยังร่วมกันทำการบ้านอยู่ ก็แสดงว่าปัญหาของคุณไม่เลวร้าย อย่างที่คุณคิดเลย อยู่แบบเพื่อน เพื่อนเขาไม่หึงกัน เพื่อนเขาไม่สนใจว่าเพื่อนจะไปหอมแก้มใครมาบ้าง ไม่ใช่อยู่อย่างไม่ติดต่อสื่อสารกันะ คนละประเด็น กรณีหลังเขาเรียกว่าสติแตก ถ้ายังมีอาการสติแตก คุณไม่ควรหย่ากับเขาหรอก เพราะคุณยังไม่พร้อมจะอยู่คนเดียว คุณยังติดอยู่กับการทะเลาะกับสามี เหมือนติด ยาบ้า เลย กลับไปตั้งหลักที่ข้อแรกใหม่ไป๊

ขั้นที่สี่ อยู่แบบเพื่อนแล้วโอเค สบายดี ถ้าสบายดีแล้วจะหย่าทำไม ไม่อยากเป็นอย่างเดิมอีกน่ะซิ นานๆเข้าเดี๋ยวเผลอใจ .. สามีก็จะเอาเพื่อนทำเมียอีกน่ะซิ คราวนี้ก็จะต้องวนกลับไปเริ่มต้นใหม่อีก เบื่อ

ขั้นสุดท้าย แยกกันอยู่ชั่วคราว ไม่ใช่วันดีคืนร้ายขนข้าวของหนีไปนะ เขาขอเรามา เราไมได้หนีตามเขามาแบบขวัญกับเรียม เรามาแบบไหนไปแบบนั้น เก็บของเสร็จก็บอกว่าจะไปอยู่ที่ไหน นานเท่าไร แล้วจะกลับมา ห้ามลืมคำว่าแล้วจะกลับมา เพราะถ้าเราไปอย่างไม่บอกไม่กล่าว เราจะกลับไม่ถูก เพราะศักดิ์ศรีมันจะปิดตาเราจนงมทางกลับบ้านไม่ได้ ถ้าศักดิ์ศรีเราโปร่งใสไม่บังตา เรากลับมาก็เสมือนซมซานกลับมา มันไม่หรู เขาจะรู้ความจริงว่า "จริงๆแล้วคุณก็ขาดผมไม่ได้" คราวนี้ สิ่งที่คุณเคยเจอแล้วเคยคิดว่าอาจทนไม่ได้มันจะหนักกว่าเก่าเพราะเขารู้ว่า ไงๆ คุณก็ต้องกลับมา

ถ้าแยกกันอยู่แล้ว 3 เดือน คิดถึงจังเลย เหงาจังเลย ขนของกลับไปเลย อ้างว่าลูกคิดถึงพ่อ แต่ก่อนกลับพูดให้ลูกรู้สึกเหมือนคิดถึงพ่อจริงๆก่อน ไม่ใช่สอนให้ลูกโกหกว่าคิดถึง แต่ปกติ ถ้าเราทดแทนทุกสิ่งได้เกือบหมด ลูกก็จะไม่ค่อยคิดถึงพ่อ แต่ถ้าเราพูดถึงความสนุกสนานของพ่อ บ่อยๆเข้า ลูกก็จะคิดถึงพ่อขึ้นมาเองโดยไม่ต้องโกหก ล้วค่อยซมซานกลับบ้านไปตามระเบียบ

ถ้าในทางกลับกัน รู้สึกดี สบายใจ อ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าเก่า คราวนี้ค่อยไปเจรจากันดีๆอีกทีว่า จะหย่ากันเมื่อไร ถ้าคุณเดินมาถึงจุดนี้แล้ว รับรองได้ว่า คุณจะไม่มีน้ำตา สำหรับการหย่าเลยสักหยด

เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด การหย่าไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เปรียบเสมือนกับการเป็นมะเร็ง วิธีรักษาวิธีนึงก็คือ การผ่าตัด การหย่าก็เหมือนกับการผ่าตัด แต่ถ้ามีวิธีใดที่สามารถป้องกันได้ เช่น กลัวมะเร็งปอดก็อย่าสูบบุหรี่ หรือกลัวมะเร็งในตับก็ไม่ต้องดื่มเหล้า โอกาสเสี่ยงก็น้อยลง แต่อย่างไรก็ดี มะเร็งในบางที่ก็ป้องกันไม่ได้ เสมือนโชคชะตาของแต่ละบุคคล ที่จะพลิกผัน จับพลัดจับผลูไปเจอคู่ตัวจริงของเขา ถ้าเราทำบุญทำกรรมกันมาแค่นี้ ก็จบกัน แต่ถ้าดันทำกันมาทั้งสามคน ก็คิดว่ากำลังเล่นละครชีวิต รื่อง สามคนผัวเมีย ก็แล้วกัน

กลับไปด้านบนกลับด้านบนยังไม่เข็ด

ต้องการติดต่อชนินาฏ