เหงาๆ.. หง่าวๆ..รู้แล้วน่า..ว่าเหงา..
การที่ต้องอยู่คนเดียวนานๆมันก็เหงาเป็นธรรมดา ถึงแม้จะมีลูก หรือลูกๆคอยกวนประสาทบ้างนิดหน่อย มันก็ยังเหงา เพราะคนที่ต้องการให้อยู่กวนใจกลับไม่ค่อยอยู่ หายศีรษะ ไปไหนก็ไม่รู้ ..... เราจะทำยังไงได้ ได้แต่รอว่า เมื่อไร สวรรค์ จะมีตา ไล่เจ้าตัวแสบที่รักของเรากลับมา แต่กลับมาแล้ว คุณยังเป็นคนเดิม คนที่พูด ด้วยเมื่อไหร่ เป็นต้อง ขอขบ ขอกัด ซะทุกที เขาก็จะเตลิดกระเจิดกระเจิงไปเหมือนก่อน อย่างไรก็ดี ถ้ามีความคิดน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ตลอดเวลา มันช่วยไม่ได้ที่จะระบายออกมาในรูปแบบที่ไม่มีใครพึงใจ เราเปลี่ยนเขาไม่ได้ เราคงต้องเปลี่ยนตนเอง ยากเป็นบ้า แต่ก็ง่ายกว่าการเปลี่ยนเขาให้เป็นแบบที่เราต้องการ (ทั้งๆที่เราเองก็ไม่เปลี่ยน)
เราจะเปลี่ยนยังไงล่ะ ให้เขา พอใจเรา น่ะหรือ ทำไมเราต้องเปลี่ยน " คนอย่างชั้นก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะเฟ๊ย ! ทำไม ต้องเป็นช้างเท้าหลัง ตลอด ทำไมต้อง คอยตาม "เปล่า ! อย่าเพิ่ง ฉิ๋วซิ ...(ฉิ๋ว มีความหมาย เหมือนคำว่าฉุน แต่คำว่าฉุน มันแสดงถึง กลิ่นแรงด้วย ใช้คำว่าฉิ๋วน่ารักกว่า) เราเปลี่ยน เพื่อตัวเราเอง เพื่อให้ชีวิต เรามีความสุข กับตัวเองมากขึ้น แล้วจะเริ่มยังไงล่ะ ?
เริ่มด้วยการลุกขึ้นยืน ก้มลงมองไปที่เท้า เห็นอวัยวะตั้งแต่ สะโพก ถึงข้อเท้ามั๊ย ที่เราใช้สำหรับยันกายและเดินน่ะ เขาเรียกว่า ขา เมื่อเรามีขา เราก็ควรยืนได้ด้วยขาของตนเอง ทำไมต้องเอา ชีวิตเราไปพึ่งพิงกับขาของสามี (ยกเว้นบางเวลา) เราต้องยืน ด้วยขา ของตนเอง แม้บางทีอาจจะอ้อนว่า ไม่มีปัญญายืนได้ถ้าขาดเขา แต่จริงๆแล้วเราต้องยืนให้ได้ เปิดสมองของเรา เลือกโปรแกรม "ความจำ" เลือกคำว่า "เหงา" แล้วกด คำว่า "ลบทิ้ง" ต่อไปนี้ ถึงเขาไม่อยู่ รวมตลอดถึง ไม่มีเขาเลย เราจะไม่เหงาอีกต่อไป
บางคนประท้วงว่า " ชั้นไม่ใช่คอมพิวเตอร์นะยะ " ถ้างั้นก็หาวิธีทำให้ไม่เหงาซิ จะทำไง ก็ถ้าสมองเราไม่ว่าง (ไม่รวมถึงการคิดถึงเขา) เราก็ไม่มีเวลามานั่งคิดว่า ป่านนี้ไปมีความสุขอยู่กับใครที่ไหน ? ซึ่งความจริง อาจไม่มีความสุข อาจทำงานหูตั้งอยู่ก็ได้ หรืออาจ กำลังทะเลาะ กับน้องหนู อยู่ก็ได้ คิดให้มัน เข้าข้างเราบ้าง บางทีอาจ กำลังตบตี ขบกัด ข่วนกัน จนแว่นแตก หรือหัวแตก ไปข้างนึงแล้ว
"คนอย่างชั้นจะทำอะไรได้ ? คงไม่ได้หมายความว่า จะให้ชั้นมานั่งทำงานฝีมือ เป็นคุณนายว่างงานหร็อกนะ" ใครจะไปรู้ว่าคุณทำอะไรได้ คุณต้องสำรวจตนเองก่อน แล้วตอบตนเอง ไม่ใช่ถามคนอื่น ใครจะไปตอบได้ (วะ)
คุณชอบงานฝีมือมั๊ย ? (นั่นไง .. ไม่แคล้วคลาด ไปจาก งานฝีมือ จริงๆ) งานฝีมือมีตั้งหลายอย่าง ถักโครเชร์ ถักนิตติ้ง ปักครอสสติส แมกโคเม่ ดอกไม้ประดิษฐ์ ถ้าไม่ชอบงานที่ต้องใช้แต่ฝีมือ ก็ลองงานที่ต้องใช้ฝีเท้าด้วย ก็งานเย็บผ้า ไม่ต้องถึงขนาด เย็บเสื้อใส่เองก็ได้ ทำที่รองแก้ว ผ้าเช็ดมือ งานอะไรที่ต้องใช้สมาธิสักหน่อย ไอ้พวกใจจดใจจ่อ เผลอเป็นเสีย จะควบคุมสมาธิเราได้ดี ไม่ชอบพวกผ้า ก็ลองลูกปัด ทำสายสร้อย ทำม่าน ทำกระเป๋า
ถ้ามันทำใจลำบากจริงที่จะทำงานฝีมือ คุณชอบ วาดรูปมั๊ย ? วาดรูปวิว รูปดอกไม้ รูปภูเขาไฟระเบิดก็ยังโอเคนะ ใช้สีน้ำ สีฝุ่น สีน้ำมัน สีอะคิลิค สีโปรสเตอร์ หรือไม่อยากเสียเงินมาก (ไม่ยอมลงทุน) ก็ยืมสีดินสอ หรือสีเทียนของลูกมาใช้ก็ได้ สีอะไร ออกมาเป็นอย่างไรก็ช่าง ถ้าเราทำเอง ดูเอง เราก็คิดว่าสวยเอง เป็นใช้ได้
งานฝีมือก็ไม่ชอบ งานวาดก็เบื่อ ปลูกต้นไม้เป็นไง ? เริ่มด้วยต้นไม้ที่ปลูกแล้วขึ้นงอกงามชัวร์ อย่าเลือกพวกเลี้ยงยากเหมือนสามีเรา มันจะทำให้จิตใจ ฝักใฝ่ ถึงเขาอีก ต้นไม้ถูกๆมีก็มาก ถ้าไม่มี พื้นที่มาก ก็เลี้ยงในกระถาง วางแถบริมหน้าต่างริมระเบียง ถ้าประคบประหงมแล้วยังตายก็คิดว่าเป็นสามีแล้วกัน ถือว่าได้ แก้แค้น ไปเปราะนึงแล้ว เห็นมั๊ย ทำอะไรก็มีประโยชน์ได้ อยู่ที่ใจจะคิดจินตนา หรือสุจินตนา แต่ห้ามฟังเพลงเพราะๆ เดี๋ยวเป็นต้อง เผลอใจฟังเพลง ประเภท " ครวญ " " เพ้อ " " ความทรงจำ " หรืออะไรทำนองนี้ ถ้าจะฟังเพลง ต้องฟังประเภท ดอกไม้เหล็ก แผลงฤทธิ์ คนไม่รักดี อะไร ประมาณนี้ ประเภท เร็วๆแรงๆ ไม่แคร์ ไม่รก ไม่รักมันแล้ว ขาดเธอแล้วฉันต้องรู้สึกสบายดีมาก แต่ผู้เขียน ยังยืนยัน ที่จะไม่แนะนำ ให้ฟังเพลง มันพลาดง่าย หลุดไป เพลงซึ้งๆ เศร้าๆ แล้วไม่ต้องทำอะไร กู่กลับลำบาก
นั่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่สน เราไม่ว่ากัน คุณก็เป็นคุณ เรื่องมาก เหมือนเคย สามีเลยเบื่อ (โอ๋ .. โอ๋ .. ล้อเล่นน่า) เลี้ยงสัตว์มั๊ย เอาไอ้ที่เรื่องมากๆ เราจะได้วุ่นวายหน่อย ถ้าจะเลี้ยงสุนัข (หมา) ก็ควรเลี้ยงสัก 2 ตัวขึ้นไป มันจะได้ กัดกันบ้าง รังแกกันบ้าง ไม่เหงาดี หรือไม่ อยากลำบาก แต่อยากเชยชม อย่างเดียว ดูเพลินๆก็ปลาตู้ นั่งดูมัน ว่ายไปว่ายมา ก็เพลินดี แต่สร้างสมาธิไม่ดี มันชวนให้คิดถึงสามีมากไปหน่อย เลี้ยงปลาตู้ อย่าดูแต่สวยงาม เปลี่ยนตู้ ย้ายหิน ย้ายต้นไม้ ให้อาหารปลาทีละนิด จะได้ให้นานๆ ถ้าเปลี่ยนบ่อยจนปลาตาย ก็หาโหล หาไห หาตู้ใหม่มาจัด จะได้ไม่ต้องรบกวนปลาตู้เก่ามากเกินเหตุ เลี้ยงปลา ประเภท ออกลูกเยอะๆ ก็จะดีในแง่ ไม่มีอะไรทำก็ นับปลาเล่น สักร้อย หรือ สองร้อยตัว กำลังดี นับเสร็จก็หลับเลย สนุกกว่า นับลูกแกะ กระโดดข้ามรั้วอีก แต่ไม่จำเป็น อย่าเลี้ยงแมว โดยเฉพาะ แมวตัวผู้ เพราะมันจะมีพฤติกรรมเหมือนสามีเรา เผลอไม่ได้ ชอบพเนจรนอกบ้าน กลับมา ก็ยังจะฉี่เลอะเทอะ ให้ล้างให้เช็ดกันอีก (สามีของเราดีกว่า เพราะไม่ฉี่เลอะเทอะ) เวลาใครบอกว่าสามีเขาเหมือนแมว อย่าคิดว่าเขากำลังข่มเราอยู่ แต่เขาอยู่ ในภาวะที่หนักกว่าเรา เพราะ สามีเรา ยังไงก็ยังกลับบ้าน แต่แมวบางทีไปแล้วหายหัวไปเลย โชคดีที่ไม่ต้องร้องขอศาลให้สั่งเป็น แมวสาบสูญ แมวตัวผู้ที่อยู่บ้านคือแมวป่วยหรือมิฉะนั้นก็แมวไม่มีน้ำยา (ถูกตอนแล้ว) สามีเราดีกว่าแมวตั้งแยะ จริงมั๊ย ?
ถ้าอยากเลี้ยงสัตว์ที่เก๋ๆ แปลกๆ อีกัว น่าอาจธรรมดาเกินไปหน่อย ลงทุนอีกนิด เลี้ยงควาย สักตัวก็ไม่เลว แต่อย่าเลี้ยงนกเอี้ยง เดี๋ยวคนจะรู้ความลับของเรา
ถ้าวิธีทั้งหลายที่กล่าวมาไม่ชอบ ไม่พอใจ ลองวิธีไฮเทคมั๊ย เริ่มด้วยการเปิดคอมพิวเตอร์ เปิด Netscape Navigator หรือ Internet Explorer พิมพ์คำว่า http:// www.yahoo.com. หรือ http:// www.google.com. หรือ http:// www.sanook.com. หรือ http:// www.teenee.com. หรือ อื่นๆ อีกมากมาย เสร็จแล้ว กด Enter แก้เซ็งอยากดูอะไรละ พิมพ์หาไป แล้วกด Search เจออะไรถูกใจบ้างมั๊ย
ถ้ายังไม่ถูกใจก็ลองหา web site ที่มี Chat มีทั้ง Chat ไทย Chat ฝรั่ง เปิดดูภาพสวยๆ ถ้าชอบสัตว์ก็ลองเปิดหา Dog of the day หรือ Cat of the day หรือ Pet of the day ขอโทษที สำหรับคุณๆที่ใช้คอมฯยังไม่เป็น ก็หาซื้อ C.D. เรียนอินเตอร์เนต ที่เขาขายกันเกร่อ มาเปิดศึกษาก่อน ไม่ชอบเหร๋อ ? ไม่เป็นไร
คุณชอบอ่านหนังสือมั๊ย ? ไม่รวมถึงหนังสือนิยายน้ำเน่านะ หาพวกนิยายฆาตกรรม นิยายผี ... ผี ... ผี แบบสยองขวัญหน่อย นิยายสืบสวนก็ดี สารคดีก็มีร้อยแปด เช่น มิติอาถรรพ์ แดนสนธยา เบอร์มิวด้า อียิปต์ ฯลฯ ไม่ชอบก็อ่านขายหัวเราะ ถ้าคุณเป็น ประเภทชอบอยากรู้อยากเห็น เรื่องในมุ้งคนอื่นก็ลองคู่สร้างคู่สม หรืออะไรทำนองนั้น
ถ้าชอบประเภทมีสาระและวัดผลได้ด้วย ก็สมัครเรียน มสธ . ซะเลย เลือกลง สาขาวิชานิติศาสตร์นะ เวลาเราไปฟังสอนเสริม หรือไปสอบ หรืออบรมเข้ม รวมถึงรับปริญญา คุณจะรู้สึกว่า เรายังเอาะอยู่เลย เพราะ นักศึกษาส่วนใหญ่ ( ไม่นับตำรวจ ) อายุอานาม จะประมาณ 35 ขึ้น 60 ก็มี 72 ก็เจอมาแล้ว ถ้าคุณเรียน มสธ . เรียนแบบจริงจังนะไม่ใช่จิงโจ้ คุณจะไม่มีเวลาคิดถึงสามีเลย เพราะวันๆหลังเลิกงาน เก็บลูกเสร็จเรียบร้อยก็ต้องอ่านหนังสือ อ่านหนังสือ และอ่านหนังสือ
ถ้าเป็นสาวโสดผู้เขียนจะไม่แนะนำให้เรียนนิติศาสตร์ เพราะจะหาสามียากกว่าบัณฑิตสาขาวิชาอื่น แต่เมื่อคุณมีสามีแล้ว และไม่คิดจะหาสามีเพิ่มก็เรียนไปเถอะ มันส์ดี เรียนซะก่อนแล้วจะรู้ว่าดีอย่างไร อธิบายยาก เสมือนเวลา สาวโสดมาถามเราว่า แต่งงานมันดีอย่างไร เราจะอึ้งนิดนึง ก่อนจะตอบว่า ไม่ลองไม่รู้ อธิบายยาก
ไม่อยากเรียน อยากสอนหนังสือมั๊ยละ ? เรามีเหยื่ออยู่ในกำมือแล้ว ลูกเราไง ใช้ให้เป็นประโยชน์ทั้งลูกทั้งแม่ แต่คุณต้องทำ การบ้านด้วยนะ การบ้าน ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง การบ้านที่ คุณแม่ต้องทำกับคุณพ่อ แต่หมายถึง การเตรียมสอน แบบที่คุณครู เขาเตรียมสอน ลูกเราที่โรงเรียนน่ะ อยากให้ ลูกเก่ง ก็ต้องคิด แบบฝึกหัด แบบฝึกหัด แบบที่เขาเห็นแล้ว อยากทำ ไม่เหนื่อย เหมือนเรียนที่โรงเรียน ทำยาก แต่ลูกคุณ อาจสอบได้ที่หนึ่ง ก็คราวนี้ (ถ้าคุณแม่ไม่ได้สอนผิดนะ) แต่มีข้อควรระวังคือ ถ้าคุณเตรียมสอนแล้ว ลูกไม่สนใจ อย่าเพิ่ง กิน ลูกซะก่อน เดี๋ยวไม่มีใคร เล่นคร ูนักเรียน กับเราอีก
หลังจากสอนเสร็จ เราต้องกลับมาประเมินผลการสอนของเราว่า วิธีการของเรามีข้อบกพร่องอะไร ทำไมลูกไม่สนใจ ลองสังเกตว่าปกติลูกชอบเล่นอะไร ก็พัฒนาจากเกมของเขานั่นล่ะมาสอนวิชาการเข้าไป แต่วิธีนี้ผู้เขียนบอกได้เลยว่า ยากยิ่งกว่าไล่ตบยุงขณะขับรถเสียอีก แต่คุณอาจชอบงานท้าทายก็ได้ ใครจะรู้ แม้ตัวคุณเองก็เถอะ !
หลังจากเกือบจะเขมือบลูกไปแล้ว จนต้องเลิกลาการสอนหนังสือลูก คุณคิดว่างานที่คุณทำอยู่ทุกวี่ทุกวันมันเป็นยังไง ควรมีระบบ อะไรมากขึ้นมั๊ย ไม่ต้องไปปรับระบบ ตลอดทั้งหน่วยงาน เอาแค่ระบบส่วนตัว ของคุณเอง ถ้าคุณทำงาน ด้านการตลาด คุณทำสถิติลูกค้ามั๊ย ถ้าเคยมีแล้ว ก็ลองทำอะไรที่มันยากขึ้นไปอีก หรือหาวิธีทำอย่างไรจะขายของได้มากขึ้นไปอีก ถ้าคุณ เป็นนักบัญชี ก็หาทางคิดบัญชี ถ้ากล่าวให้ถูก ก็คือ หาระบบบัญชี มานั่งคิด บัญชีอะไรก็ได้ ขอให้มีงานทำมากๆไปวันๆ ถ้าคุณทำงานหนักขึ้น (ทำแบบมีสาระจริงๆ) ผลงานคุณก็จะสูงโด่ง ทีนี้ไม่ต้องกลัวซองขาว ซองน้ำตาล เพราะถึงเศรษฐกิจไม่ดี ก็ไม่มีใครเชิญ คนเก่ง ออกจากงาน นอกจากนายจ้างล้มละลาย และ คำขอ ฟื้นฟูกิจการไม่ผ่าน (ตามกฎหมาย ล้มละลาย)
ถ้าคุณเป็นแม่ศรีเรือนเฝ้าบ้าน ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน คุณก็มีงานที่ทำได้เช่นกัน เป็นนักออกแบบภายในดีมั๊ย ฉวยโอกาสช่วงสามี เบื่อหน้าเรา ไม่ค่อยอยู่บ้าน จัดบ้าน แต่งสวน แต่งบ้านใหม่ตามใจเราซะให้เข็ด ย้ายนั่น ย้ายนี่ ย้ายให้หมด จัดสารพัด
แต่ถ้าจัดบ้านแล้วบังเอิญพบ เอกสารลับส่วนตั๊ว ... ส่วนตัวของสามีก็ใจเย็นไว้โยม อย่าโกรธขนาดเอาไปทิ้ง เอาไปเผาไฟ ให้เสี่ยงกับไฟไหม้บ้าน เก็บไว้เป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดี ถ้าสามี เป็นคนมี ระเบียบมีระบบที่ดี ห้ามเก็บ เด็ดขาด เพราะเขาอาจรู้ว่า เราบังอาจเก็บเอกสารลับของเขาไว้ แล้วเป็นต้องโกรธ เป็นฟืนเป็นไฟ บ้านอาจพังได้ ยิ่งถ้า ถึงคราวซวย ของเรา เขาถือโอกาส บอกความจริง ว่าสาวเจ้าของเอกสารลับ ที่เรากำลังสงสัย ว่าเป็นใครมาอย่างไร เราอาจหนาว เพราะเรายังไม่พร้อมที่จะรู้
ฉะนั้น อย่าวู่วาม ใจเย็นไว้ ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็แค่อาบน้ำแต่งตัว เดินถือเอกสารดังกล่าวไปหน้าปากซอยแล้วถ่ายเอกสารเก็บไว้ ก็สิ้นเรื่อง ! อย่าเพิ่งท้ารบ ถ้าเรายังไม่พร้อม รอให้มะม่วงสุกก่อน ค่อยเฉือน หวานกว่ากันเยอะเลย
ถ้าคุณไม่ชอบกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้น คุณชอบเล่นกีฬารึเปล่าละ ? ถ้าเล่นกับเพื่อนจะประเสริฐสุด เพราะ ที่ใดมีเพื่อน ที่นั่น ย่อมไม่เหงา เพื่อนก็เสมือนเป็นยันต์กันเหงาชนิดหนึ่ง เล่นเทนนิส แบทมินตั้น กอร์ฟ จะขนาดสนุกเกอร์ก็ยังได้ แต่ไม่ควรเล่นไพ่ เพราะมีโอกาสติด ! ติดในที่นี้คือติดเป็นนิสัย (ไม่ดี) และอาจติดตะราง
ถ้าไม่มีเพื่อนเล่น ก็ลงทุนหน่อย เข้า Sport club เลย ออกกำลังให้ถูกวิธี ลบและลดความอ้วนออกไป เพิ่มกล้ามเนื้อ ชนิดออกมาต้องปิ๊ง ! ใหม่ๆ อาจเบื่อ เล่นแอโรบิคก็ตามครูไม่ทัน เราไม่ว่ากัน ก็ครูตัวซักกะเปี๊ยก เราตัวยังกะตึก วันแรกทำทัน ก็เกินไปมั๊ง ? ไม่ชอบกีฬาก็เข้าสถานเสริมความงามไปเลย อบตัว นวดหน้า ขัดผิว แต่กรุณาจำไว้ข้อนึงว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ไม่ใช่เรียกร้อง ให้เขากลับมา เพราะเราสวยขึ้น แต่ทุกอย่าง ทำเพื่อตนเอง ถ้าเรามองหน้าตัวเองแล้วรู้สึกดีขึ้น เราก็จะมี ความสุข ส่วนเขาจะสนใจหรือไม่ ช่างมันฉันไม่แคร์ (กรุณา ท่องไว้ด้วย) ถ้าบังเอิญ เขาเกิดปิ๊งขึ้นมา เรียกว่าผลพลอยได้ อย่างไรก็ดี ถึงเขาจะปิ๊งขึ้นมา ถ้าคุณยังเป็น คนเดิมๆซึ่ง น่ากลัว ที่จะอยู่ใกล้ ต่อให้คุณผ่าตัดหน้า จนสวยขนาด นางสาวไทย เขาก็ไม่สน
สิ่งต่างๆที่พร่ำมานี้ ล้วนอยากบอกคุณว่า ทำใจให้สบายเพื่อความสุขของเรา ผู้ชายไม่ใช่มีคนเดียวในโลก (แต่สามีมีคนเดียว) อย่าทำร้ายตนเอง ถ้าคุณมีความสุข ทุกอย่างรอบตัวคุณก็มีความสุขด้วย ลูกก็ไม่ต้องเครียดตามเรา เวลาเราคุยกับสามีเราก็ไม่รู้สึกน้อยใจ เมื่อไม่น้อยใจ ปากเราก็ไม่เสีย เมื่อปากเราไม่เสียเขาก็อยากอยู่ใกล้ๆ ใครมันจะไปดีกว่าเมียไม่มีแล้ว เชื่อซิ
*เนื้อหาในเวปนี้คัดลอกมาจากหนังสือ "บันทึก..ลับๆล่อๆ" พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ขายหมดไปแล้ว เมื่อประมาณ เกือบๆต้น ศตวรรษ (โม้ ..อยู่แล้ว )
กลับไปด้านบน
ยังไม่เข็ด
